สร้างสรรค์กิจกรรม..เปิดประตูสู่โลกนอกห้องเรียน

ถึงช่วงปิดเทอม
สิ่งที่พ่อแม่กังวลกันหนักหนาคือจะให้ลูกทำอะไรกันดี
สำหรับพ่อแม่ที่มีเงินก็มีทางเลือกมากหน่อย
อาจส่งไปเข้าค่ายในต่างประเทศ
หรือไปเรียนวิชาโน้น
วิชานี้ ตามที่พ่อแม่อยากให้เรียน
หรือเด็กอยากจะเรียนเอง
แต่ยังมีครอบครัวมากมายที่ไม่รู้ว่าจะให้ลูกทำอะไร
และจุดนี้เองเป็นสิ่งที่น่ากลัวที่สุด
ต้องบอกตามตรงว่า
สิ่งที่จะช่วยแก้ไขให้เด็กไม่ใช้เวลาหมดไปกับการรวมกลุ่มกับเพื่อน
เดินเที่ยวเตร็ดเตร่ไปเรื่อยๆ
หรือสังสรรค์เสวนากันแบบไม่รู้ทิศทาง
คือ การหาเลือกให้เด็กๆ
ได้มีโอกาสทำกิจกรรม
สำหรับเด็กในเมืองนั้น
มีตัวเลือกมากมายกว่าเด็กในต่างจังหวัด
เพราะเด็กต่างจังหวัดมักขาดโอกาสในการที่จะมีสถานที่เรียนกวดวิชา
เรียนสิ่งที่ตนเองชอบ
จากการที่ได้เคยลงพื้นที่เวลาไปท่องเที่ยวและไปดูงาน
ภายใต้ความสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ
(สสส.) จะพบว่าโครงการที่น่าสนใจสำหรับเด็กและเยาวชนคือ
โครงการมัคคุเทศก์น้อย
ซึ่งสามารถทำได้ในทุกที่
อย่างเห็นได้ชัด
เช่น โครงการมัคคุเทศก์น้อยของบ้านหนองฮ้อ
จังหวัดอุบลราชธานี
หรือโครงการที่อยู่ในเครือข่ายของชุมชนฮักเมืองน่านนั้น
นอกจากจะเด็กๆ จะได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์แล้ว
เด็กๆ เหล่านี้ยังได้ความรู้เกี่ยวกับบ้านเกิดของพวกเขาติดตัวไปด้วย
ก่อนที่เด็กๆ
เหล่านี้จะสามารถมาเป็นมัคคุเทศก์น้อยได้นั้น
พวกเขาจะต้องเข้าเรียนในหลักสูตรท้องถิ่นของตนเอง
ให้รู้ว่าบ้านเกิดของตนนั้นมีความเป็นมาอย่างไร
จุดเด่นที่แตกต่างจากสถานที่ในหมู่บ้านอื่นๆ
อย่างไร ความรัก ความเข้าใจ
และความผูกพันต่อบ้านเกิด
ย่อมเกิดขึ้นอย่างช่วยไม่ได้
เสน่ห์ของความเป็นหมู่บ้านในแต่ละสถานที่นั้น
มีเอกลักษณ์ที่เฉพาะตัวอยู่แล้ว
ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสถานที่ท่องเที่ยวอย่างเดียวเท่านั้น
แต่เป็นเรื่องของวัฒนธรรม
ประเพณี เรื่องราวของผู้คน
เมื่อได้รับการถ่ายทอดให้ผู้มาเยือน
โดยผ่านมัคคุเทศก์ที่ไร้เดียงสาแล้วยิ่งน่าฟังนัก
เด็กๆ
เองก็ภูมิใจกับบ้านเกิดของพวกเขา
ผู้ใหญ่เองก็ดูเหมือนจะสนใจความน่ารัก
และเป็นกำลังใจในการให้เด็กๆ
ได้ฝึกฝนตนเองมากกว่าจะเอาเรื่องเอาความรู้ฉบับถูกต้องเที่ยงตรง
น้องๆ
บางคนเล่าเรื่องผิดแล้ว
ถูกเพื่อนทักท้วงต่อหน้าต่อตาอย่างไม่เกรงใจ
น้องก็เล่าใหม่ด้วยท่าทีขวยเขินเล็กน้อย
บางคนพูดเหมือนท่องมา
พอถามว่าท่องมาหรือเปล่า
น้องก็ว่าท่องมา ถามว่ารู้เรื่องนี้ไหม
น้องบอกตรงนี้ยังจำไม่ได้
คำตอบใสซื่อแบบนี้นี่เอง
ที่ทำให้ผู้มาเยือนเกิดความประทับใจเสียมากกว่าคำตอบที่ชัดเจนแบบผู้นำเที่ยวที่เป็นผู้ใหญ่
อันที่จริงโครงการมัคคุเทศก์น้อยนั้น
ให้ผลให้คุณค่ามากมายแก่สังคม
ทั้งตัวเด็กเองซึ่งอยากเจอคนต่างถิ่นอยู่แล้ว
การได้พบคนภายนอกคือการเรียนรู้ทั้งในเรื่องสังคม
และเรื่องราวของผู้คน
เป็นการเรียนรู้นอกห้องจากของจริง
มัคคุเทศก์น้อยนั้นถือว่าเป็นตัวอย่างทางเลือกของการจัดกิจกรรมได้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์
แต่อันที่จริงผู้ใหญ่ยังสามารถสร้างสรรค์กิจกรรมอื่นๆ
เพื่อให้เด็กมีทางเลือก
และไม่เป็นลักษณะการหยุดเรียนก็เหมือนการหยุดโลกทุกอย่าง
การเรียนรู้นั้น
เป็นเรื่องที่มิได้ขึ้นกับกาลเวลา
แต่เป็นสิ่งที่สามารถทำได้อย่างต่อเนื่อง
ตลอดเวลา เด็กๆ สามารถเลือกกิจกรรมเพื่อเสริมทักษะการเรียนรู้ได้ตลอด
หากผู้ใหญ่รู้จักจัดให้เหมาะสมหากพ่อแม่มีเวลาในช่วงปิดเทอม
อาจส่งลูกไปเข้าค่ายกิจกรรมพิเศษ
อาจพาลูกไปเที่ยว หรือการส่งเข้าค่ายธรรมะฝึกฝนทางด้านจิตใจก็เป็นเรื่องที่ดี
พ่อแม่หลายคนส่งลูกไปบวชเป็นสามเณรน้อย
หรืออยู่กับยุวพุทธิกสมาคม
หรือไปอาสาเข้าค่ายทำกิจกรรมต่างๆ
การปลูกฝังความรู้ทางสมองทางปัญญา
สำคัญไม่แพ้การปลูกฝังความรู้สึกดีชั่ว
ผิดถูก หรือการให้ลูกได้มีโอกาสอบรมบ่มนิสัยทางใจ
จิตใจที่ดี
หากอยู่ในร่างกายที่ดี
ก็ยิ่งมีประโยชน์มากขึ้น
เพราะนั่นคือการสร้างบุคลากรที่สำคัญ
หัวใจสำคัญของสังคมก็คือ
การมีบุคคลที่มีคุณภาพ
และบุคลากรจะมีคุณภาพได้
ก็คือบุคลากรที่ได้รับการปลูกฝังมาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก
ให้จำไว้ว่า
แม้โรงเรียนปิด แต่โอกาสของการเรียนรู้นั้นยังเปิดอยู่ได้ตลอดไป
ตราบใดเท่าที่ผู้ใหญ่ยังให้ความสำคัญ